เขื่อนเชี่ยวหลาน [กุ้ยหลินเมืองไทย] ไม่ไปไม่รู้ – D1

สำรวจทริป เขื่อนเชี่ยวหลาน วันที่ 1 มุ่งหน้าสู่ดินแดนลึกลับ Unseen of Southeast Asia 

สายน้ำกระเซ็นระหว่างล่องเรือหางยาวในเขื่อนเชี่ยวหลาน

เช้าวันที่  1  ทีมงานทุกคนพร้อมออกเดินทางในช่วงเช้าที่แสนสดใส เราเริ่มเดินทางจากโรงแรมเล็ก ๆ ในตัวเมืองสุราษฏร์ธานี แวะกินอาหารเช้า เดินเล่นตลาดสด ด้วยความที่คิดว่าเราน่าจะซื้ออะไรไปทำกินกันนะ และแล้ว….ปลาหมึกไข่ ปูม้า ก็ตกอยู่ในกำมือของเรา พร้อมกับอาหารจิปาถะอีกนิดหน่อยที่ได้ซื้อสำรองมาแล้วก่อนหน้า

จากตัวเมืองสุราษฏร์ธานี…เราก็เริ่มขับรถเลาะออกจากเมืองและมุ่งหน้าไปยังเขื่อนเชี่ยวหลาน (เปิด google map ไปตามทางหลวงเรื่อย ๆ สบาย ๆ ถนนค่อนข้างดีครับ

เส้นทางไปเขื่อนเชี่ยวหลานเดินทางได้สะดวก วิ่งตามทางถนนใหญ่ไปเรื่อย ๆ (ทางหลวงหมายเลข 401) ถ้าจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี จะใช้เวลาประมาณ 1:30 ชั่วโมง

หากเดินทางมาจากสนามบินสุราษฎร์ธานี ก็ใกล้เข้ามาอีก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

และแล้ว…เราก็ขับมาถึงปากทางเข้าเขื่อนรัชชประภา จากปากทางถนนใหญ่จะมีป้ายใหญ่โตมโหฬารเขียนว่า เขื่อนรัชชประภา ดังนั้นไม่ต้องกลัวหลงนะครับ ให้ขับเข้ามาตามทางเรื่อย ๆ ไม่มีแยก ไมต้องกลัวหลง เข้ามาจนถึงเขตเขื่อน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยตรวจตรา ตรวจเสร็จก็ขับเข้าไปตามทางได้เลย ใครใคร่จะแวะเที่ยวตัวเขื่อนก่อนก็ได้ หรือถ้าจะไปที่ท่าเรือเลยก็ได้เช่นกันครับ

ขับเลาะมาตามป้ายแปปเดียวก็ถึงบริเวณท่าเรือ และจะมีจุดจอดรถค้างคืน ตอนที่ไปมีค่าบริการคืนละ 80 บาท/คืน สถานที่ก็เป็นลานโล่งกว้างครับ ไม่มีหลังคาใด ๆ หลังจากจอดรถเสร็จอย่าลืมหยิบใบรับฝากเก็บไว้ให้ดี ถ้าหายเสียค่าปรับนะจ๊ะ

หลังจากจอดรถเสร็จก็ไปยังท่าเรือ เรือติดต่อเรือที่ทางทีมงานสำรวจโลกได้ประสานงานจองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับเรือที่ใช้ในการเดินทางทั้งหมดจะเป็นเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ จะลำเล็กใหญ่ ก็ว่ากันไปตามจำนวนผู้โดยสาร คนขับเรือทุกท่านจะเป็นคนท้องถิ่น จะมีความชำนาญและมีความรู้เกี่ยวกับเขื่อนเป็นอย่างดี สงสัยส่วนไหนก็ถามเขาโดยตรงได้เลยนะครับ

ภาพบรรยากาศระหว่างล่องเรือที่ เขื่อนเชี่ยวหลาน ธรรมชาติแสงแดด ต้นไม้ใหญ่ ภูเขา ที่เราจะไปสัมผัสกันในทริปนี้

เนื่องจากทริปนี้ได้วางแผนไว้ว่าจะพัก 2 คืน ดังนั้นวันนี้ทางทีมงานจึงไม่ได้วางแผนที่จะไปเที่ยวไหนครับ เน้นพักผ่อนบนแพ ว่ายน้ำ พายเรือคายัค และวางแผนจะไปเที่ยว น้ำตก และ ถ้ำประการัง ในวันที่ 2 แต่ถ้าใครมาพักแค่คืนเดียวและอยากไปทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกแพก็สามารถไปได้ครับ

ลองพายเรือคายัคเล่นบริเวณแพที่พัก

หรือใครจะว่ายน้ำ หรือเล่นน้ำก็ตามสบายเราเลยครับ วันแห่งการพักผ่อนโดยแท้จริง

ทุกแพมักจะมีหอสูงไว้ให้กระโดดน้ำทดสอบความกล้ากัน น้องเขาเก่งจริง ๆ แค่มองยังเสียว 🙂

บรรยากาศยามเย็นบนแพ ช่วงเวลาประมาณ 18:15 น.

Tips การท่องเที่ยว :

• ก่อนมาเที่ยวควรแจ้งให้ครอบครัวรับทราบและจัดการงานต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน เพราะเมื่ออยู่ในแพแล้วการติดต่อโลกภายนอกจะค่อนข้างลำบากครับ
• ปกติบนแพจะมีการปั่นกระแสไฟฟ้าในช่วง 18:00 – 22:00 น. นอกเหนือจากช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ดังนั้นการจัดสรรหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้กระแสไฟก็ควรทำให้เสร็จในช่วงเวลานี้ครับ (ปัจจุบันมีบางแพได้พัฒนาโดยมีบริการกระแสไฟตลอดคืน ซึ่งก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามลำดับ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติแท้ ๆ หรือเน้นความสบายขึ้นมาหน่อยก็มีตัวเลือกนะครับ)
• บนแพห้ามส่งเสียงดังรบกวนในช่วงกลางคืน และให้เชื่อฟังกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
• การพกไฟฉายติดมาด้วยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการมาเที่ยวทริป เขื่อนเชี่ยวหลาน ยิ่งถ้าเราจะไปเที่ยว ถ้ำประการัง ก็ควรพกติดตัวไปด้วย
• เสื้อผ้าที่นำเป็นควรเป็นเสื้อผ้าแบบแห้งเร็ว (สำหรับเล่นน้ำ หรือไปทำกิจกรรม) เพราะกิจกรรมหลักส่วนใหญ่จะต้องโดนน้ำบ้างไม่มากก็น้อย
• การวางแผนท่องเที่ยวแนะนำให้ติดต่อผ่านตัวแทนประสานงานจะสะดวกกว่า การมาหาจองแพหน้างานถือเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงมาก โดยเฉพาะคนที่มาจากที่ไกล ๆ เพราะปัจจุบันตัวแพก็ไม่พอสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว และทางอุทยานฯ ไม่มีแผนที่จะให้สัมปทานแพรายใหม่ ๆ >> facebook เขื่อนเชี่ยวหลาน